10 ร้านชาบูหม่าล่าสุดฮิตในกรุงเทพ แซ่บเว่อร์ ลิ้นชา ต้องลอง! อัพเดต 2024

0 0
Read Time:8 Minute, 3 Second

เทรนด์อาหารมาแรงที่กำลังถล่มทลายกรุงเทพตอนนี้ต้องยกให้ชาบูหม่าล่า เครื่องเทศสุดแซ่บสไตล์จีนที่ทั้งเผ็ดทั้งชาจนต้องยกนิ้วให้ แถมยังมีร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้นทุกเดือน จนหลายคนงงว่าจะไปร้านไหนดี วันนี้เลยรวบรวม 10 ร้านชาบูหม่าล่าที่พิสูจน์แล้วว่าเด็ดจริงมาฝาก

ประวัติหม่าล่า เรื่องราวความเผ็ดร้อนจากแดนมังกร

ก่อนจะไปรู้จักร้านหม่าล่าเด็ดๆ มาทำความรู้จักกับ “หม่าล่า” กันก่อน คำว่า “หม่าล่า” มาจากภาษาจีนกลาง แปลตรงตัวคือ “ชาและเผ็ด” เป็นรสชาติเฉพาะตัวที่เกิดจากการผสมผสานพริกแห้งและพริกไป๋เจียว (พริกฮวาเจียว) กับเครื่องเทศนานาชนิด

ต้นกำเนิดของหม่าล่าอยู่ที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เมื่อประมาณ 300 ปีก่อน เล่ากันว่าชาวเสฉวนสมัยก่อนนิยมกินอาหารรสจัดเพื่อขับไล่ความชื้นและความหนาวเย็น จนกลายเป็นวัฒนธรรมการกินที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

เครื่องเทศที่ใช้ในน้ำซุปหม่าล่ามีมากกว่า 20 ชนิด ทั้งอบเชย ดอกจันทน์ ยี่หร่า ขิงแห้ง และสมุนไพรอีกมากมาย แต่ละร้านจะมีสูตรลับเฉพาะตัว การปรุงน้ำซุปต้องใช้เวลาเคี่ยวนานหลายชั่วโมง เพื่อให้รสชาติของเครื่องเทศแต่ละตัวผสมผสานกันอย่างลงตัว

ความพิเศษของหม่าล่าอยู่ที่ความรู้สึก “ชา” บนลิ้น ที่เกิดจากสารในพริกฮวาเจียว เมื่อผสมกับความเผ็ดร้อนของพริกแห้งและความหอมของเครื่องเทศ ทำให้เกิดรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนอาหารเผ็ดชนิดอื่น จนทำให้หลายคนติดใจและกลายเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลก

  1. สู่ต้าเสีย ตำนานหม่าล่าระดับโลกที่ MBK

สู่ต้าเสียคือปรากฏการณ์ใหม่วงการหม่าล่าที่ทำให้หลายคนต้องอ้าปากค้าง ด้วยพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตรใน MBK CENTER ชั้น 6 ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็น “วังมังกร” สไตล์จีนโบราณ ร้านนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเป็นแบรนด์หม่าล่าเจ้าเดียวที่คว้ารางวัล Guinness World Records และมีสาขามากกว่า 600 แห่งทั่วโลก

บรรยากาศภายในร้านอลังการงานสร้างด้วยการตกแต่งสไตล์หมู่บ้านโคมไฟจีนโบราณ มีการแสดงบนเวทีตำหนักกลางน้ำ และมังกรพ่นควันไฟที่ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในหนังกำลังภายในเลยทีเดียว แต่ที่เด็ดสุดคือรสชาติอาหารแบบเสฉวนแท้ๆ ที่ใช้วัตถุดิบระดับพรีเมียมนำเข้าจากทั่วโลก

พิเศษสุดคือมีบริการห้องคาราโอเกะและห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว เหมาะสำหรับปาร์ตี้หรือฉลองในโอกาสพิเศษ แถมยังมีกิจกรรมและเกมให้ร่วมสนุกตลอดทั้งคืน

นี่ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่เป็น destination แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่รวมทั้งอาหารเลิศรส บรรยากาศสุดอลังการ และความบันเทิงครบรส ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์หม่าล่าระดับเวิลด์คลาส ต้องลองมาสักครั้ง

  • ที่อยู่: MBK CENTER ชั้น 6
  • เปิด: 10.00-01.00 น.
  • โทร: 094-491-3900

  1. ที่นี่เฉิงตู หม่าล่าแท้สไตล์เสฉวน

ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศร้านอาหารจีนแท้ๆ ต้องมาที่นี่ การตกแต่งร้านย้อนยุคสไตล์จีนโบราณ ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่เมืองเฉิงตูจริงๆ เมนูเด็ดคือชาบูเสียบไม้ที่มีให้เลือกมากกว่า 60 รายการ ตั้งแต่เนื้อหมักหมึกย่าง ไปจนถึงเห็ดป่านานาชนิด

น้ำซุปหม่าล่าที่นี่เข้มข้นระดับ 10 ใส่เครื่องเทศแบบไม่มีกั๊ก ทางร้านถึงกับต้องเตือนว่าห้ามดื่มน้ำซุปโดยตรง แต่รสชาติกลมกล่อมมาก ลงตัวทั้งความเผ็ดและความหอมของเครื่องเทศ แถมยังมีทั้งแบบปิ้งย่างและชาบูให้เลือกตามใจชอบ

  • ที่อยู่: ซ.นราธิวาสราชนครินทร์ 15 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
  • เปิด: 11.30-22.00 น. (หยุดวันจันทร์)
  • โทร: 086-820-6244

  1. Hai Di Lao Hotpot แบรนด์ดังระดับโลกที่ต้องลอง

ใครที่ตามเทรนด์อาหารต้องรู้จักร้านนี้ Hai Di Lao คือแบรนด์ชาบูระดับโลกที่มีสาขามากกว่า 400 แห่งทั่วโลก จุดเด่นอยู่ที่การบริการสุดพิเศษและคุณภาพอาหารที่รับประกันความอร่อย น้ำซุปหม่าล่าปรุงด้วยสูตรลับเฉพาะ ที่ผสมผสานความเผ็ดร้อนและความกลมกล่อมได้อย่างลงตัว

เมนูเด็ดที่ต้องสั่งคือเนื้อวัวสไลด์บาง กุ้งสด และลูกชิ้นทำสดใหม่ทุกวัน และอย่าลืมลองบริการพิเศษอย่างการแสดงศิลปะการดึงเส้นบะหมี่สด ที่จะทำให้มื้ออาหารของคุณพิเศษกว่าที่ไหนๆ

  • ที่อยู่: centralwOrld ชั้น 7 โซน Beacon
  • เปิด: 10.00-24.00 น.
  • โทร: 02-255-0310

  1. FuFu Shabu ชาบูไต้หวันระดับพรีเมียม

FuFu Shabu นำเสนอประสบการณ์ชาบูไต้หวันระดับพรีเมียม น้ำซุปหม่าล่าที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นุ่มลิ้นกว่าที่อื่น แต่ยังคงความเผ็ดร้อนครบรส บุฟเฟ่ต์มีเมนูให้เลือกมากกว่า 100 รายการ เน้นลูกชิ้นไต้หวันหลากชนิดที่ทำสดใหม่ทุกวัน

ที่พิเศษสุดคือการปิดท้ายมื้ออาหารด้วยไอศครีมฮาเก้นดาส ที่ช่วยดับความเผ็ดร้อนได้อย่างลงตัว แม้ราคาจะสูงกว่าที่อื่นนิดหน่อย แต่คุ้มค่ากับคุณภาพและบริการที่ได้รับ

  • ที่อยู่: ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
  • เปิด: 11.00-22.00 น.
  • โทร: 099-192-9666

  1. CQK MALA Hotpot แลนด์มาร์คหม่าล่าย่านห้วยขวาง

CQK MALA Hotpot นี่คือสวรรค์ของคนรักความจัดจ้านระดับเทพ น้ำซุปหม่าล่าที่นี่ผสมผสานพริกฮวาเจียวกับเครื่องเทศนานาชนิดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว กลิ่นหอมเตะจมูกตั้งแต่ก้าวเข้าร้าน เปิดให้บริการถึงตี 2 ครึ่ง เหมาะสำหรับสายดึกที่อยากหาอะไรแซ่บๆ กิน

ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านที่ชาวจีนในกรุงเทพแนะนำปากต่อปาก รสชาติจัดจ้านแบบไม่ปรุงแต่งเพื่อคนไทย คนที่ชอบความแท้ห้ามพลาด แถมบรรยากาศร้านยังให้ฟีลเหมือนนั่งกินอยู่ในย่านชาวจีนเลยทีเดียว

  • ที่อยู่: ถ.เทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
  • เปิด: 11.30-02.30 น.
  • โทร: 093-807-7777

  1. Mongkok Sukiyaki ชาบูสไตล์ฮ่องกงที่ต้องลอง

Mongkok Sukiyaki แหวกแนวด้วยการผสมผสานรสชาติหม่าล่าเข้ากับสไตล์ฮ่องกง มีหม้อชาบูส่วนตัวให้ทุกคน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องระดับความเผ็ด เพราะปรับได้ตามใจชอบ เมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือเนื้อวากิวนำเข้าคุณภาพดี และซีฟู้ดสดใหม่

จุดเด่นอีกอย่างคือของหวาน มีเค้กและขนมหลากหลายชนิดให้เลือกชิม เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งคาวหวาน ในราคา 549++ บาท คุ้มค่าสุดๆ

  • ที่อยู่: ซ.สุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
  • เปิด: 11.00-22.00 น.
  • โทร: 02-391-8688

  1. Tenten ชาบู 4 สี น่ารักสไตล์คิวท์ๆ

ร้านนี้โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์สุดน่ารัก มีหมีออนเซนลอยในหม้อชาบู เป็นเจ้าแรกในไทย น้ำซุปมี 4 ช่องให้เลือกตามความชอบ รวมถึงน้ำซุปหม่าล่าที่ปรุงรสมาอย่างลงตัว ไม่เผ็ดจนเกินไป เหมาะสำหรับมือใหม่หัดกินหม่าล่า

นอกจากชาบูแล้ว ยังมีซูชิบุฟเฟ่ต์ให้ทานคู่กัน ในราคาเริ่มต้น 499++ บาท เรียกได้ว่าคุ้มทั้งรสชาติและความน่ารักของการตกแต่ง

  • ที่อยู่: สยามสแควร์วัน ชั้น 5
  • เปิด: 11.00-22.00 น.
  • โทร: 062-479-1623

  1. อาม่งหม่าล่า หม้อไฟ สุดยอดร้านลับแห่งเยาวราช

ซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็กๆ แห่งเยาวราช อาม่งหม่าล่าคือร้านเล็กๆ ที่มีโต๊ะแค่ 5 โต๊ะ แต่รสชาติจัดจ้านระดับตำนาน น้ำซุปหม่าล่าเข้มข้นด้วยเครื่องเทศแบบดั้งเดิม รสชาติเป็นที่ยอมรับในหมู่คนจีนในย่านนี้ว่าเป็นหม่าล่าที่ใกล้เคียงกับที่เมืองจีนมากที่สุด

แม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่คิวยาวตลอด โดยเฉพาะช่วงเย็น แนะนำให้โทรจองโต๊ะล่วงหน้า และลองสั่งเมนูแนะนำอย่างเนื้อวัวสไลด์บางและลูกชิ้นปลาทำสด

  • ที่อยู่: พลับพลาไชย ตรอกอิสรานุภาพ เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ
  • เปิด: 11.30-15.00 น. และ 16.30-21.30 น.
  • โทร: 064-829-6166

  1. Warng Warng หม่าล่าสไตล์ไต้หวันย่านสุขุมวิท

Warng Warng โดดเด่นด้วยการนำเสนอหม่าล่าสไตล์ไต้หวันที่แตกต่าง น้ำซุปที่นี่ผ่านการเคี่ยวนานกว่า 8 ชั่วโมง ด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรกว่า 21 ชนิด ทำให้ได้รสชาติที่ซับซ้อนและกลมกล่อมกว่าที่อื่น

มีน้ำซุปให้เลือก 3 แบบ ทั้งซุปโสม 8 สมุนไพรอมตะ ซุปหม่าล่าต้นตำรับ และซุปมะเขือเทศไต้หวัน วัตถุดิบที่นี่เน้นคุณภาพระดับพรีเมียม เลือกสั่งได้ทั้งแบบเซ็ตและแยกชิ้น บรรยากาศร้านเรียบหรู เหมาะกับการพาคนพิเศษมาทาน

  • ที่อยู่: ซ.สุขุมวิท 33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
  • เปิด: 11.30-22.00 น.
  • โทร: 096-301-9699

  1. AYI Hotpot หม่าล่าอาอี๋ ต้นตำรับเสฉวนราคาเบาๆ

AYI Hotpot หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “หม่าล่าอาอี๋” คือสวรรค์ของคนรักหม่าล่าที่ไม่อยากจ่ายแพง ด้วยราคาบุฟเฟ่ต์เริ่มต้นเพียง 299 บาท แต่วัตถุดิบและรสชาติไม่ได้ธรรมดา เพราะใช้เครื่องเทศนำเข้าโดยตรงจากแหล่งผลิตในจีน

จุดเด่นของที่นี่คือเมนู Handmade สูตรพิเศษจากเชฟชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นกุ้งบด ลูกชิ้นหมูผักชี ลูกชิ้นวัว เนื้อหมูหมักนุ่ม เนื้อวัวกุหลาบ และเนื้อวัวหม่าล่า นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบเฉพาะที่นำเข้าจากจีน เช่น สาหร่าย เส้นมันเทศ และเส้นมันใหญ่ แถมน้ำจิ้มยังเด็ดไม่แพ้ใคร

  • ที่อยู่: Mint Tower ชั้น 1 ถ.บรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
  • เปิด: 11.00-22.00 น.
  • โทร: 094-979-8704

หากใครกำลังมองหาร้านหม่าล่าอร่อยๆ ลองแวะไปชิมร้านไหนก็ได้ในลิสต์นี้ รับรองว่าไม่ผิดหวัง แต่อย่าลืมเช็คเวลาเปิด-ปิด และจองโต๊ะล่วงหน้าในช่วงวันหยุด เพราะหลายร้านคนแน่นมาก และที่สำคัญคือเตรียมใจให้พร้อมกับความเผ็ดและรสชาติจัดจ้านที่จะทำให้คุณติดใจจนต้องกลับมาซ้ำแน่นอน

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %